เมื่อเราเเก่ตัวลง 2
เมื่อเราแก่ตัวลง 2
เนิสซิ่งโฮมในประเทศญี่ปุ่น ( Nursing Home )
ประเทศญี่ปุ่นมีอัตราประชากรผู้สูงอายุมากเป็นอันดับต้นๆของโลก ขณะที่อัตราการเกิดกลับส่วนทางกัน หลายปีก่อนผู้เขียนได้มีโอกาสติดตามสมาคมผู้ประกอบการเนิสซิ่งโฮมของไทย ไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น พบว่า เนิสซิ่งโฮมในประเทศญี่ปุ่น ดำเนินกิจการ โดยทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน
เนิสซิ่งโฮมที่ดำเนินการโดยภาครัฐ มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า แต่ก็มีคิวยาวมาก กว่าจะได้เข้าพัก โดยสถานที่แบ่งออกเป็นห้องพักรวม หรือห้องแยก 3 เตียง 2 เตียง หรือ ห้องพักคนเดียว รวมทั้งแยกตึกระหว่างผู้สูงอายุที่ดูแลตัวเองได้ ผู้สูงอายุอัลไซเมอร์ ผู้สูงอายุที่ป่วย และป่วยติดเตียง ซึ่งค่าบริการรายเดือนก็แตกต่างกันออกไป โดยผู้ประสงค์จะเข้าพักต้องวางเงินก้อนใหญ่จำนวนหนึ่ง ( คิดเป็นเงินไทย หลักหลายล้าน ) เพื่อแจ้งวัตถุประสงค์ว่าสนใจจอง จ่ายรายเดือน และรอคิวอยู่ที่บ้านจนกว่าเตียงจะว่างลง
เมื่อเราเเก่ตัวลง 2
ผู้สูงอายุที่อยู่บ้านลำพัง ระหว่างรอการต่อคิว เนิสซิ่งโฮมจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ ( สังเกตดูจากผังรูปเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ) พวกเราจึงมีคำถาม ทำไมจึงเน้น เจ้าหน้าที่ผู้ชาย คำตอบที่ได้คือ บางบ้าน อาจต้องแบกผู้สูงอายุไปอาบน้ำ โดย เจ้าหน้าที่ไปที่บ้านสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อไปซักผ้า อาบน้ำให้ ทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าว หรือพาออกไปข้างนอก
( หากท่านไปได้ ) โดยผู้สูงอายุจะถูกฝึก หรือได้รับการบอกเล่าว่า หากเกิดอุบัติเหตุล้มที่บ้าน จะต้องไม่ขยับตัวใดๆ หากอยู่ใกล้โทรศัพท์ ให้โทรเรียกเพื่อขอความช่วยเหลือ หากไม่สามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ ให้อยู่นิ่งๆ เพราะอย่างไรเจ้าหน้าที่เนิสซิ่งโฮมก็ไปเยี่ยม สัปดาห์ละ 1 ครั้งอยู่แล้ว บางท่านรอได้ก็รออยู่ในท่านั้น บางท่านรอไม่ได้ ก็จากไปอย่างโดดเดี่ยว ค่าปลงศพต่างๆก็ใช้เงินค่าแลกเข้าดำเนิการ
เมื่อเราเเก่ตัวลง 2
เนิสซิ่งโฮมที่ดำเนินการโดยภาคเอกชน มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ามาก ตึกอาคารสถานที่ดูสวยกว่า มีค่าแรกเข้าราคาหลักล้าน ซึ่งเงินค่าแรกเข้านี้จะคงอยู่กับบริษัทฯ มีรายเดือนที่ต้องจ่ายเพิ่มเติม มีตารางกิจกรรมต่างๆ หากต้องการทำกิจกรรมไหน ก็เข้าไปจองคิวทำกิจกรรมนั้นๆ เช่น การจัดดอกไม้ เล่มเกมส์ ทำอาหาร หรือหากท่านไม่ต้องการจะร่วมกิจกรรมใดๆเลยก็ทำได้ แต่ทั้งนี้ค่ากิจกรรมต่างๆก็รวมอยู่ในรายเดือนแล้ว นอกจากนี้ทางบริษัทฯจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราว่าท่านมีญาติ ลูกหลาน เข้ามาเยี่ยมบ้างหรือไม่ กรณีไม่มีลูกหลานเลย ต้องทำพินัยกรรม คำขอสุดท้ายไว้ กรณีมีลูกหลาน แต่ขาดการติดต่อ ทางบริษัทฯก็จะพยายามหากิจกรรมให้ลูกหลานได้แวะมาเยี่ยมบ่อยๆเพื่อมั่นใจว่าลูกหลานจะไม่ขาดการติดต่อกันไปเลย